วันอังคารที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
วันอาทิตย์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2560
วันพุธที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
กิจกรรมที่1 คลังความรู้และข้อสอบ
TCAS หรือ Thai University Center Admission System เป็นระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งจะเริ่มนำมาใช้ในปีการศึกษา 2561 เป็นระบบที่ออกแบบโดยที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.)
TCAS มีขั้นตอนอย่างไร
ระบบ TCAS ที่ทาง ทปอ. ได้ประกาศออกมา มี 5 ขั้นตอน ดังนี้
ระบบ TCAS ที่ทาง ทปอ. ได้ประกาศออกมา มี 5 ขั้นตอน ดังนี้
1. คัดเลือกโดยการส่งแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio)
ในรอบนี้จะพิจารณาจากผลงานของนักเรียนที่นำมาใส่ Portfolio ไม่มีการสอบข้อเขียน ซึ่งแต่ละมหาวิทยาลัยจะคัดเลือกนักเรียนจำนวนหนึ่ง อาจจะมีกาสัมภาษณ์หรือทดสอบทักษะเฉพาะทาง โดยการคัดเลือกในรอบนี้เป็นแค่การ Pre-screening เท่านั้น
ในรอบนี้จะพิจารณาจากผลงานของนักเรียนที่นำมาใส่ Portfolio ไม่มีการสอบข้อเขียน ซึ่งแต่ละมหาวิทยาลัยจะคัดเลือกนักเรียนจำนวนหนึ่ง อาจจะมีกาสัมภาษณ์หรือทดสอบทักษะเฉพาะทาง โดยการคัดเลือกในรอบนี้เป็นแค่การ Pre-screening เท่านั้น
2. สมัครโควตาแบบมีสอบข้อเขียน สำหรับนักเรียนในพื้นที่
ในรอบนี้จะเป็นการรับนักเรียนแบบโควตา สำหรับนักเรียนที่อยู่ในพื้นที่ หรือ รอบเขตการศึกษา ที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนด ในขั้นตอนนี้ทางมหาวิทยาลัยสามารถจัดสอบเองได้เลย หรือจะใช้ข้อสอบส่วนกลาง อย่าง 9วิชาสามัญ หรือ GAT/PAT เพื่อคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษา
ในรอบนี้จะเป็นการรับนักเรียนแบบโควตา สำหรับนักเรียนที่อยู่ในพื้นที่ หรือ รอบเขตการศึกษา ที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนด ในขั้นตอนนี้ทางมหาวิทยาลัยสามารถจัดสอบเองได้เลย หรือจะใช้ข้อสอบส่วนกลาง อย่าง 9วิชาสามัญ หรือ GAT/PAT เพื่อคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษา
3. การรับตรงร่วมกัน
ในรอบนี้เป็นการสอบรับตรง ซึ่งโครงการรับตรงอย่าง กสพท. ก็รวมอยู่ในรอบนี้ด้วย โดยทาง ทปอ. จะเป็นส่วนกลางในการรับสมัครในรอบนี้ และทางมหาวิทยาลัยจะพิจารณาผลการคัดเลือก โดยผู้สมัครสามารถเลือกได้ 4 สาขาวิชา
ในรอบนี้เป็นการสอบรับตรง ซึ่งโครงการรับตรงอย่าง กสพท. ก็รวมอยู่ในรอบนี้ด้วย โดยทาง ทปอ. จะเป็นส่วนกลางในการรับสมัครในรอบนี้ และทางมหาวิทยาลัยจะพิจารณาผลการคัดเลือก โดยผู้สมัครสามารถเลือกได้ 4 สาขาวิชา
4. การรับ Admission
ในรอบนี้ยังคงใช้เกณฑ์ในการคัดเลือกแบบ Admission โดยใช้องค์ประกอบของคะแนน อย่างเช่น GPAX, O-NET, GAT/PAT หรืออื่นๆ ซึ่งผู้สมัครสามารถเลือกได้ 4 สาขาวิชา
ในรอบนี้ยังคงใช้เกณฑ์ในการคัดเลือกแบบ Admission โดยใช้องค์ประกอบของคะแนน อย่างเช่น GPAX, O-NET, GAT/PAT หรืออื่นๆ ซึ่งผู้สมัครสามารถเลือกได้ 4 สาขาวิชา
5. การรับตรงแบบอิสระ
ทางมหาวิทยาลัยสามารถใช้เกณฑ์การสอบที่จัดขึ้นเอง หรือการสอบวิชาเฉพาะ และส่งผลการคัดเลือกให้ทาง ทปอ.
เหมือนหรือแตกต่าง?
ทุกๆคนคงจะสงสัยว่ามันต่างกับการคัดเลือกที่ผ่านๆมายังไง ระบบTCAS มีการเพิ่ม Clearing-House เป็นระบบที่ใช้ในการยืนยันสิทธิ์ ซึ่งผู้ที่ผ่านการคัดเลือกในแต่ละรอบจะต้องกดยืนยันสิทธิ์เคลียริ่งเฮาส์ในการที่จะเข้าเรียนได้แค่คนละ 1 ที่ เท่านั้น ระบบนี้สร้างมาเพื่อไม่ให้ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกหลายๆที่พร้อมกัน “กันที่” ของคนอื่นนั่นเอง และยังสะดวกต่อทางมหาวิทยาลัยในการนับจำนวนคนอีก
เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับระบบใหม่ TCAS ที่ชาว Sanook! Campus นำมาแชร์กัน สำหรับน้องๆปี 61 เตรียมตัวกันให้พร้อมคอยอัพเดทข้อมูลข่าวสารอยู่เสมอ ซึ่งแน่นอนว่าทางเว็บไซด์แคมปัสสนุกของเราจะอัพเดทข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่องแน่นอนค่ะ
ทางมหาวิทยาลัยสามารถใช้เกณฑ์การสอบที่จัดขึ้นเอง หรือการสอบวิชาเฉพาะ และส่งผลการคัดเลือกให้ทาง ทปอ.
เหมือนหรือแตกต่าง?
ทุกๆคนคงจะสงสัยว่ามันต่างกับการคัดเลือกที่ผ่านๆมายังไง ระบบTCAS มีการเพิ่ม Clearing-House เป็นระบบที่ใช้ในการยืนยันสิทธิ์ ซึ่งผู้ที่ผ่านการคัดเลือกในแต่ละรอบจะต้องกดยืนยันสิทธิ์เคลียริ่งเฮาส์ในการที่จะเข้าเรียนได้แค่คนละ 1 ที่ เท่านั้น ระบบนี้สร้างมาเพื่อไม่ให้ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกหลายๆที่พร้อมกัน “กันที่” ของคนอื่นนั่นเอง และยังสะดวกต่อทางมหาวิทยาลัยในการนับจำนวนคนอีก
เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับระบบใหม่ TCAS ที่ชาว Sanook! Campus นำมาแชร์กัน สำหรับน้องๆปี 61 เตรียมตัวกันให้พร้อมคอยอัพเดทข้อมูลข่าวสารอยู่เสมอ ซึ่งแน่นอนว่าทางเว็บไซด์แคมปัสสนุกของเราจะอัพเดทข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่องแน่นอนค่ะ
สรุปแบบง่ายๆ TCAS ระบบสอบเข้ามหาวิทยาลัยแบบใหม่ เริ่มใช้ปี 2561
มาอ่านสรุป TCAS ระบบการคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลับรูปแบบใหม่ที่จะเริ่มใช้ในปีการศึกษา 2561 นี้ กันดีกว่า ว่าสรุปแล้วระบบใหม่นี้มันคืออะไรกันแน่? ต่างจากระบบเก่ายังไง? มีข้อดีอะไรบ้าง? แล้วต้องเตรียมสมัครวันไหน? น้องๆ ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับม.ปลาย โดยเฉพาะคนที่ต้องใช้ระบบ TCAS ในการเข้ามหาวิทยาลัย ต้องมาอ่านกันให้ดีๆ เพื่อเตรียมความพร้อม !
TCAS คืออะไร ?
- TCAS เป็นระบบการคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยรูปแบบใหม่ ซึ่งย่อมาจาก Thai University Central Admission System
- ไม่ใช่ระบบเอ็นทรานซ์ แต่เป็นการรวมวิธีการรับนักศึกษาทั้ง 5 รูปแบบมาไว้ด้วยกัน
- สามารถติดตามและตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ ได้ผ่านทางเว็บไซต์ทางการ http://TCAS61.cupt.net ตั้งแต่ 2 มิถุนายน เวลา 18:00 เป็นต้นไป
ต่างจากระบบเดิมยังไงบ้าง ?
- การสอบของข้อสอบกลางทั้งหมดจะเลื่อนไปสอบหลังจากที่เด็กชั้น ม.6 เรียนจบการศึกษาแล้ว
- GAT/ PAT จัดสอบระหว่างวันที่ 24 – 27 กุมภาพันธ์ 2561
- O-NET จัดสอบระหว่างวันที่ 3 – 4 มีนาคม 2561
- 9 วิชาสามัญ จัดสอบระหว่างวันที่ 17 – 18 มีนาคม 2561
- กสพท. และวิชาเฉพาะของแต่ละมหาวิทยาลัย จัดสอบระหว่างวันที่ 24 กุมภาพันธ์ – 12 เมษายน 2561
- นอกจากนี้ยังมีการเพิ่ม ภาษาเกาหลี เป็นภาษาเพิ่มเติมในการสอบ PAT7 ความถนัดทางภาษาต่างประเทศด้วย
- GAT/ PAT จัดสอบระหว่างวันที่ 24 – 27 กุมภาพันธ์ 2561
- O-NET จัดสอบระหว่างวันที่ 3 – 4 มีนาคม 2561
- 9 วิชาสามัญ จัดสอบระหว่างวันที่ 17 – 18 มีนาคม 2561
- กสพท. และวิชาเฉพาะของแต่ละมหาวิทยาลัย จัดสอบระหว่างวันที่ 24 กุมภาพันธ์ – 12 เมษายน 2561
- นอกจากนี้ยังมีการเพิ่ม ภาษาเกาหลี เป็นภาษาเพิ่มเติมในการสอบ PAT7 ความถนัดทางภาษาต่างประเทศด้วย
มีข้อดียังไงบ้าง ?
- เพิ่มโอกาสความเท่าเทียมในการเข้ามหาวิทยาลัย
- ลดปัญหาการกันสิทธิ์คนอื่น (กั๊กที่)
- ลดปัญหาความได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างคนรวยกับคนจน
- แก้ปัญหาวิ่งรอกสอบ เพราะระบบใหม่จะจัดช่วงเวลาการสอบหลังจากที่เด็กชั้น ม.6 เรียนจบการศึกษาแล้ว
- เพิ่มโอกาสความเท่าเทียมในการเข้ามหาวิทยาลัย
- ลดปัญหาการกันสิทธิ์คนอื่น (กั๊กที่)
- ลดปัญหาความได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างคนรวยกับคนจน
- แก้ปัญหาวิ่งรอกสอบ เพราะระบบใหม่จะจัดช่วงเวลาการสอบหลังจากที่เด็กชั้น ม.6 เรียนจบการศึกษาแล้ว
รายละเอียดการคัดเลือก TCAS ทั้ง 5 รอบ (ปีการศึกษา 2561)
- รอบที่ 1 : การรับด้วยแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) โดยไม่มีการสอบข้อเขียน
- สำหรับ : นักเรียนทั่วไป นักเรียนที่มีความสามารถพิเศษ นักเรียนโควตา นักเรียนเครือข่าย
- ยื่นสมัครและคัดเลือกโดย : สถาบันอุดมศึกษา/ มหาวิทยาลัยโดยตรง
- ช่วงวันเปิดรับสมัคร และวันคัดเลือก :
- ครั้งที่ 1 : 1 ตุลาคม 2560 – 30 พฤศจิกายน 2560
- ประกาศผล : 22 ธันวาคม 2560
- ครั้งที่ 2 : 22 ธันวาคม 2560 – 28 กุมภาพันธ์ 2561
- ประกาศผล : 26 มีนาคม 2561
- รอบที่ 2 : การรับแบบโควตาที่มีการสอบปฏิบัติและข้อเขียน
- สำหรับ : นักเรียนที่อยู่ในเขตพื้นที่หรือภาค โควตาโรงเรียนในเครือข่าย และโครงการความสามารถพิเศษ
- คะแนนที่ต้องใช้ยื่น : GAT/PAT, 9 วิชาสามัญ
- ช่วงวันเปิดรับสมัคร และวันคัดเลือก : ธันวาคม 2560 – เมษายน 2561
- ประกาศผล : 8 พฤษภาคม 2561
- ยื่นสมัครและคัดเลือกโดย : สถาบันอุดมศึกษา/ มหาวิทยาลัยโดยตรง
- รอบที่ 3 : การรับตรงร่วมกัน
- สำหรับ : นักเรียนที่อยู่ในโครงการ กสพท. (กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย), โครงการอื่นๆ ตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด
- ช่วงวันเปิดรับสมัคร และวันคัดเลือก : 9 – 13 พฤษภาคม 2561
- ประกาศผล : 8 มิถุนายน 2561
- การเลือกสอบ : สามารถสมัครสอบและเลือกได้ 4 สาขาวิชา โดยไม่มีลำดับ หมายความว่า 4 สาขาวิชา หรือ 4 มหาวิทยาลัยที่สมัครไปนั้นน้องๆ มีโอกาสผ่านการคัดเลือกทั้งหมด.. (แล้วค่อยเลือกมหาวิทยาลัยที่ต้องการศึกษาต่อในเคลียริ่งเฮาส์ของรอบที่ 3 อีกครั้ง) ซึ่งที่จะมีการจัดสอบร่วมกันในเวลาเดียวกัน โดยแต่ละมหาวิทยาลัยเป็นคนกำหนดเกณฑ์การคัดเลือกเอง
- รอบที่ 4 : การรับแบบ Admission
- สำหรับ : นักเรียนทั่วไป
- ช่วงวันเปิดรับสมัคร และวันคัดเลือก : 6 – 10 มิถุนายน 2561
- ประกาศผล : 13 กรฎาคม 2561
- การเลือกสอบ : สามารถสมัครสอบและเลือกได้ 4 สาขาวิชา โดยมีลำดับ (เหมือนปีที่ผ่านมา)
- รอบที่ 5 : การรับตรงแบบอิสระ (รอบเก็บตก)
- สำหรับ : นักเรียนทั่วไป
- ช่วงวันเปิดรับสมัคร และวันคัดเลือก : ภายในเดือนกรกฎาคม 2561
- การเลือกสอบ : สามารถสมัครสอบได้ตามความต้องการ โดยที่แต่ละมหาวิทยาลัยจะรับตรงด้วยวิธีการของมหาวิทยาลัยเอง
- ยื่นสมัครและคัดเลือกโดย : สถาบันอุดมศึกษา/ มหาวิทยาลัยโดยตรง
-
- รอบที่ 1 : การรับด้วยแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) โดยไม่มีการสอบข้อเขียน
- สำหรับ : นักเรียนทั่วไป นักเรียนที่มีความสามารถพิเศษ นักเรียนโควตา นักเรียนเครือข่าย
- ยื่นสมัครและคัดเลือกโดย : สถาบันอุดมศึกษา/ มหาวิทยาลัยโดยตรง
- ช่วงวันเปิดรับสมัคร และวันคัดเลือก :
- ครั้งที่ 1 : 1 ตุลาคม 2560 – 30 พฤศจิกายน 2560
- ประกาศผล : 22 ธันวาคม 2560
- ครั้งที่ 2 : 22 ธันวาคม 2560 – 28 กุมภาพันธ์ 2561
- ประกาศผล : 26 มีนาคม 2561
- ครั้งที่ 1 : 1 ตุลาคม 2560 – 30 พฤศจิกายน 2560
- รอบที่ 2 : การรับแบบโควตาที่มีการสอบปฏิบัติและข้อเขียน
- สำหรับ : นักเรียนที่อยู่ในเขตพื้นที่หรือภาค โควตาโรงเรียนในเครือข่าย และโครงการความสามารถพิเศษ
- คะแนนที่ต้องใช้ยื่น : GAT/PAT, 9 วิชาสามัญ
- ช่วงวันเปิดรับสมัคร และวันคัดเลือก : ธันวาคม 2560 – เมษายน 2561
- ประกาศผล : 8 พฤษภาคม 2561
- ยื่นสมัครและคัดเลือกโดย : สถาบันอุดมศึกษา/ มหาวิทยาลัยโดยตรง
- รอบที่ 3 : การรับตรงร่วมกัน
- สำหรับ : นักเรียนที่อยู่ในโครงการ กสพท. (กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย), โครงการอื่นๆ ตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด
- ช่วงวันเปิดรับสมัคร และวันคัดเลือก : 9 – 13 พฤษภาคม 2561
- ประกาศผล : 8 มิถุนายน 2561
- การเลือกสอบ : สามารถสมัครสอบและเลือกได้ 4 สาขาวิชา โดยไม่มีลำดับ หมายความว่า 4 สาขาวิชา หรือ 4 มหาวิทยาลัยที่สมัครไปนั้นน้องๆ มีโอกาสผ่านการคัดเลือกทั้งหมด.. (แล้วค่อยเลือกมหาวิทยาลัยที่ต้องการศึกษาต่อในเคลียริ่งเฮาส์ของรอบที่ 3 อีกครั้ง) ซึ่งที่จะมีการจัดสอบร่วมกันในเวลาเดียวกัน โดยแต่ละมหาวิทยาลัยเป็นคนกำหนดเกณฑ์การคัดเลือกเอง
- รอบที่ 4 : การรับแบบ Admission
- สำหรับ : นักเรียนทั่วไป
- ช่วงวันเปิดรับสมัคร และวันคัดเลือก : 6 – 10 มิถุนายน 2561
- ประกาศผล : 13 กรฎาคม 2561
- การเลือกสอบ : สามารถสมัครสอบและเลือกได้ 4 สาขาวิชา โดยมีลำดับ (เหมือนปีที่ผ่านมา)
- รอบที่ 5 : การรับตรงแบบอิสระ (รอบเก็บตก)
- สำหรับ : นักเรียนทั่วไป
- ช่วงวันเปิดรับสมัคร และวันคัดเลือก : ภายในเดือนกรกฎาคม 2561
- การเลือกสอบ : สามารถสมัครสอบได้ตามความต้องการ โดยที่แต่ละมหาวิทยาลัยจะรับตรงด้วยวิธีการของมหาวิทยาลัยเอง
- ยื่นสมัครและคัดเลือกโดย : สถาบันอุดมศึกษา/ มหาวิทยาลัยโดยตรง
สำหรับเด็กซิ่ว
-
เด็กซิ่วสามารถสมัครได้ทุกรอบที่มีการเปิดรับสมัคร โดยจะต้องเป็นไปตามคุณสมบัติและระเบียบการที่มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งระบุไว้
*เด็กซิ่ว = เด็กที่ลาออกจากการเป็นนิสิตนักศึกษาแล้วกลับมาเข้าระบบเพื่อแอดมิชชั่นใหม่
- เด็กซิ่วสามารถสมัครได้ทุกรอบที่มีการเปิดรับสมัคร โดยจะต้องเป็นไปตามคุณสมบัติและระเบียบการที่มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งระบุไว้*เด็กซิ่ว = เด็กที่ลาออกจากการเป็นนิสิตนักศึกษาแล้วกลับมาเข้าระบบเพื่อแอดมิชชั่นใหม่
สำหรับเด็กอินเตอร์
-
กระทรวงศึกษาธิการเผยว่า เด็กที่จบจากโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทย หรือ จบการศึกษาจากต่างประเทศ ไม่ต้องเทียบวุฒิการศึกษา โดยสามารถสมัครสอบ(ตามเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนด) ได้ 3 รูปแบบ คือ
- การสมัครในรอบที่ 1 : การรับด้วยแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) โดยไม่มีการสอบข้อเขียน
- อาจเป็นการยื่นคะแนนทางวิชาการ IELTS, TOEFL, SAT เป็นต้น และมีมีคุณสมบัติตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด
- การสมัครในรอบที่ 3 หรือรอบที่ 5 : การรับตรงร่วมกัน, การรับตรงแบบอิสระ (รอบเก็บตก)
- โดยต้องมีการสอบเพิ่มเติม หรือมีคุณสมบัติตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด
- การสมัครในรอบที่ 4 : การรับแบบ Admission
- โดยต้องมีคะแนนและใช้องค์ประกอบคะแนนตามที่กำหนด
สำหรับเด็กที่จะเข้ามหาวิทยาลัยราชภัฎ หรือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล
-
นักเรียนที่ต้องการเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยราชภัฎ หรือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล จะสามารถสมัครในรอบที่ 1-3 และรอบที่ 5 แต่จะไม่มีกาสอบรอบที่ 4 (Admission) เพราะว่าจะเป็นช่วงเปิดภาคเรียนของมหาวิทยาลัยทั้ง 2 กลุ่มแล้วล
-
คู่มือผ่านด่าน TCAS 61
- ก่อนจะไปทำความเข้าใจกับ “TCAS 61" ระบบสอบเข้ามหาวิทยาลัยแบบใหม่ในปี 2561 อยากให้เปรียบตัวเองเป็นมาริโอ้ในเกมที่จะต้องวิ่ง เดิน กระโดด เก็บพลังให้ตัวใหญ่ การสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็เหมือนการเล่นเกมในชีวิตที่เราจะต้องผ่านไปให้ได้ ซึ่งกว่าจะผ่านแต่ละด่านได้ ถ้ามีคู่มือการเล่นเกม มีสูตรลัดก็จะช่วยให้เกมเดินไปถึงเส้นชัยได้เร็วขึ้นนั่นเอง คู่มือนี้ก็เช่นกันจะช่วยให้เพื่อน ๆ ผ่านด่านเข้ามหาวิทยาลัย ไม่พลาดคณะในฝันแน่นอน พร้อมแล้วก็ออกสตาร์ทเลย
- กระทรวงศึกษาธิการเผยว่า เด็กที่จบจากโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทย หรือ จบการศึกษาจากต่างประเทศ ไม่ต้องเทียบวุฒิการศึกษา โดยสามารถสมัครสอบ(ตามเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนด) ได้ 3 รูปแบบ คือ
- การสมัครในรอบที่ 1 : การรับด้วยแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) โดยไม่มีการสอบข้อเขียน
- อาจเป็นการยื่นคะแนนทางวิชาการ IELTS, TOEFL, SAT เป็นต้น และมีมีคุณสมบัติตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด
- การสมัครในรอบที่ 3 หรือรอบที่ 5 : การรับตรงร่วมกัน, การรับตรงแบบอิสระ (รอบเก็บตก)
- โดยต้องมีการสอบเพิ่มเติม หรือมีคุณสมบัติตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด
- การสมัครในรอบที่ 4 : การรับแบบ Admission
- โดยต้องมีคะแนนและใช้องค์ประกอบคะแนนตามที่กำหนด
สำหรับเด็กที่จะเข้ามหาวิทยาลัยราชภัฎ หรือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล - การสมัครในรอบที่ 1 : การรับด้วยแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) โดยไม่มีการสอบข้อเขียน
- นักเรียนที่ต้องการเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยราชภัฎ หรือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล จะสามารถสมัครในรอบที่ 1-3 และรอบที่ 5 แต่จะไม่มีกาสอบรอบที่ 4 (Admission) เพราะว่าจะเป็นช่วงเปิดภาคเรียนของมหาวิทยาลัยทั้ง 2 กลุ่มแล้วล
- คู่มือผ่านด่าน TCAS 61
- ก่อนจะไปทำความเข้าใจกับ “TCAS 61" ระบบสอบเข้ามหาวิทยาลัยแบบใหม่ในปี 2561 อยากให้เปรียบตัวเองเป็นมาริโอ้ในเกมที่จะต้องวิ่ง เดิน กระโดด เก็บพลังให้ตัวใหญ่ การสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็เหมือนการเล่นเกมในชีวิตที่เราจะต้องผ่านไปให้ได้ ซึ่งกว่าจะผ่านแต่ละด่านได้ ถ้ามีคู่มือการเล่นเกม มีสูตรลัดก็จะช่วยให้เกมเดินไปถึงเส้นชัยได้เร็วขึ้นนั่นเอง คู่มือนี้ก็เช่นกันจะช่วยให้เพื่อน ๆ ผ่านด่านเข้ามหาวิทยาลัย ไม่พลาดคณะในฝันแน่นอน พร้อมแล้วก็ออกสตาร์ทเลย
1. ค้นหาตัวเองให้เจอ สำรวจตัวเองว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร ถนัดอะไรเป็นพิเศษ
2. ศึกษาข้อมูล ค้นคว้าในเว็บไซต์เรื่องข่าวการสอบ กำหนดการต่าง ๆ หรือวิธีอื่น เช่น สอบถามรุ่นพี่ ไปงาน Open House ไปค่าย ไปลองสัมผัสประสบการณ์จากคณะที่เราคิดว่าใช่
3. ทดสอบความพร้อม ลองไปเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับคณะหรืออาชีพนั้น ๆ
2. ศึกษาข้อมูล ค้นคว้าในเว็บไซต์เรื่องข่าวการสอบ กำหนดการต่าง ๆ หรือวิธีอื่น เช่น สอบถามรุ่นพี่ ไปงาน Open House ไปค่าย ไปลองสัมผัสประสบการณ์จากคณะที่เราคิดว่าใช่
3. ทดสอบความพร้อม ลองไปเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับคณะหรืออาชีพนั้น ๆ
ต่อไปก็ต้องศึกษาเส้นทาง อยากเข้าคณะอะไร คณะนั้นเปิดสอนที่ไหนบ้าง แต่ละที่มีเปิดรับตรง/โควตาไหม เปิดรับในระบบอะไรบ้าง การสอบเข้าใช้คะแนนอะไร หากเราไม่ศึกษาข้อมูลพวกนี้ จะไม่มีทางเล่นเกมนี้ได้ชนะ !
Basic Items
อาวุธพื้นฐาน
1. วุฒิการศึกษา จะได้มาหลังจากที่เรียนจบ ม. 6 หรือในระบบการศึกษาอื่น ๆ หรือเทียบเท่า* ม. 6
*เทียบเท่า = ผู้ที่มีวุฒิการศึกษาเทียบเท่า ม. 6 นั่นก็คือ กศน. และปวช.
2. GPAX หรือเกรดเฉลี่ยสะสม เป็นอาวุธที่จะต้องเหลาให้คมเพราะช่วยให้ด่านต่อไปง่ายขึ้น การนำเกรดไปใช้ในแต่ละด่านโดยทั่วไปมีทั้งกำหนดเกรดขั้นต่ำและไม่กำหนด หากกำหนดก็จะกำหนดใช้เกรดเทอม 4, 5 หรือ 6 แล้วแต่โครงการ
- เกรดเฉลี่ยสะสม 4 ภาคเรียน คือ ม. 4 และ ม. 5
- เกรดเฉลี่ยสะสม 5 ภาคเรียน คือ เกรด ม. 4, ม. 5 และ ม. 6 เทอม 1
- เกรดเฉลี่ยสะสม 6 ภาคเรียน คือ เกรด ม. 4, ม. 5 และ ม. 6
3. คุณสมบัติเฉพาะกลุ่ม การรับตรง/โควตาเฉพาะพื้นที่ เฉพาะภูมิภาค มักจะกำหนดว่ามีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ที่กำหนดเท่านั้น หรือเคยผ่านโครงการนี้มาแล้ว แนะนำว่าควรอ่านคุณสมบัติให้ละเอียดจะได้ไม่พลาดโอกาสในการใช้สิทธิ์พิเศษต่าง ๆ ในจุดนี้
4. พลังวิเศษ การเล่นเกมใคร ๆ ก็พึ่งพาการ์ดพิเศษอันนี้ คือความสามารถพิเศษที่โดดเด่น เช่น เล่นดนตรี เล่นกีฬา ฯลฯ เพราะทักษะเหล่านี้สามารถทำให้เราผ่านด่านได้ง่ายขึ้น แต่หากไม่มีการ์ดนี้ก็ไม่ต้องเสียใจไป เพราะก็ยังสามารถถึงเส้นชัยได้
5. ความรู้ คือสิ่งที่แต่ละคนสั่งสมมาและมีไม่เท่ากัน บางคนชอบวิชาวิทยาศาสตร์มาก บางคนชอบวิชาภาษาอังกฤษ ก็จะถนัดในวิชาที่ชอบแต่จะไม่สนใจและไม่ถนัดวิชาที่ไม่ชอบเลย แต่ก็มีคนที่ถนัดทุกวิชา ซึ่งอันนี้เป็นข้อได้เปรียบ ฉะนั้นเราต้องตั้งใจเรียนทำความเข้าใจวิชาเรียนหลัก ๆ ไว้ด้วยนะ
6. Portfolio แฟ้มสะสมอาวุธทั้งหมดของเรา การสอบสัมภาษณ์ทุกครั้งแฟ้มสะสมผลงานเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เป็นการแนะนำตัวโชว์ผลงานเด่น ๆ ให้แก่คณะกรรมการได้เห็นว่าเรามีความสามารถทางด้านนี้มากแค่ไหน อาวุธของเรามีพลังมากพอที่จะผ่านด่านไปได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้เล่นเองจะสามารถสะสมประการณ์ให้ตัวเองได้มากน้อยแค่ไหน
*เทียบเท่า = ผู้ที่มีวุฒิการศึกษาเทียบเท่า ม. 6 นั่นก็คือ กศน. และปวช.
2. GPAX หรือเกรดเฉลี่ยสะสม เป็นอาวุธที่จะต้องเหลาให้คมเพราะช่วยให้ด่านต่อไปง่ายขึ้น การนำเกรดไปใช้ในแต่ละด่านโดยทั่วไปมีทั้งกำหนดเกรดขั้นต่ำและไม่กำหนด หากกำหนดก็จะกำหนดใช้เกรดเทอม 4, 5 หรือ 6 แล้วแต่โครงการ
- เกรดเฉลี่ยสะสม 4 ภาคเรียน คือ ม. 4 และ ม. 5
- เกรดเฉลี่ยสะสม 5 ภาคเรียน คือ เกรด ม. 4, ม. 5 และ ม. 6 เทอม 1
- เกรดเฉลี่ยสะสม 6 ภาคเรียน คือ เกรด ม. 4, ม. 5 และ ม. 6
3. คุณสมบัติเฉพาะกลุ่ม การรับตรง/โควตาเฉพาะพื้นที่ เฉพาะภูมิภาค มักจะกำหนดว่ามีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ที่กำหนดเท่านั้น หรือเคยผ่านโครงการนี้มาแล้ว แนะนำว่าควรอ่านคุณสมบัติให้ละเอียดจะได้ไม่พลาดโอกาสในการใช้สิทธิ์พิเศษต่าง ๆ ในจุดนี้
4. พลังวิเศษ การเล่นเกมใคร ๆ ก็พึ่งพาการ์ดพิเศษอันนี้ คือความสามารถพิเศษที่โดดเด่น เช่น เล่นดนตรี เล่นกีฬา ฯลฯ เพราะทักษะเหล่านี้สามารถทำให้เราผ่านด่านได้ง่ายขึ้น แต่หากไม่มีการ์ดนี้ก็ไม่ต้องเสียใจไป เพราะก็ยังสามารถถึงเส้นชัยได้
5. ความรู้ คือสิ่งที่แต่ละคนสั่งสมมาและมีไม่เท่ากัน บางคนชอบวิชาวิทยาศาสตร์มาก บางคนชอบวิชาภาษาอังกฤษ ก็จะถนัดในวิชาที่ชอบแต่จะไม่สนใจและไม่ถนัดวิชาที่ไม่ชอบเลย แต่ก็มีคนที่ถนัดทุกวิชา ซึ่งอันนี้เป็นข้อได้เปรียบ ฉะนั้นเราต้องตั้งใจเรียนทำความเข้าใจวิชาเรียนหลัก ๆ ไว้ด้วยนะ
6. Portfolio แฟ้มสะสมอาวุธทั้งหมดของเรา การสอบสัมภาษณ์ทุกครั้งแฟ้มสะสมผลงานเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เป็นการแนะนำตัวโชว์ผลงานเด่น ๆ ให้แก่คณะกรรมการได้เห็นว่าเรามีความสามารถทางด้านนี้มากแค่ไหน อาวุธของเรามีพลังมากพอที่จะผ่านด่านไปได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้เล่นเองจะสามารถสะสมประการณ์ให้ตัวเองได้มากน้อยแค่ไหน
TCAS รอบที่ 1 Portfolio
ด่านโควตานี้ไม่มีการสอบข้อเขียน ใช้แค่ Portfolio โดยจะมีการกำหนดคุณสมบัติของผู้สมัครไว้แบบเฉพาะเจาะจง เช่น คววามสามารถะพิเศษ ทักษะความสามารถด้านต่าง ๆ กีฬา ดนตรี เป็นต้น เพราะฉะนั้นลองตรวจสอบดูว่าเรามีคุณสมบัติตรงตามโควตาประเภทใดหรือไม่ ถ้ามีและเป็นคณะหรือสาขาที่สนใจ อย่ารอช้า รีบยื่น Portfolio ของเราไปเลย
ประเภทของการรับตรง
- โครงการความสามารถพิเศษ
- โครงการโอลิมปิกวิชาการ
- โครงการเรียนดี
- โควตาโรงเรียนเครือข่าย
การสมัคร : มหาวิทยาลัยเปิดรับเอง
กำหนดการสมัครและคัดเลือก :
ครั้งที่ 1 วันที่ 1 ต.ค. - 30 พ.ย. 60
ครั้งที่ 2 วันที่ 22 ธ.ค. 60 – 28 ก.พ. 61
ประเภทของการรับตรง
- โครงการความสามารถพิเศษ
- โครงการโอลิมปิกวิชาการ
- โครงการเรียนดี
- โควตาโรงเรียนเครือข่าย
การสมัคร : มหาวิทยาลัยเปิดรับเอง
กำหนดการสมัครและคัดเลือก :
ครั้งที่ 1 วันที่ 1 ต.ค. - 30 พ.ย. 60
ครั้งที่ 2 วันที่ 22 ธ.ค. 60 – 28 ก.พ. 61
TCAS รอบที่ 2 โควตา
รับตรง/โควตาด่านนี้มีความคล้ายกับด่านแรก คือใช้ Portfolio แฟ้มสะสมอาวุธยื่น แต่จะมีการสอบข้อเขียนเพิ่มเข้ามาด้วย เพื่อวัดความถนัดพิเศษด้วย เช่น สอบความรู้ด้านทัศนศิลป์ ด้านภาษาอังกฤษ หรือทักษะอื่น ๆ ตามที่สถาบันกำหนด เป็นต้น
ประเภทของการรับตรง
- โควตาพื้นที่ หรือ โควตาโรงเรียนในเครือข่ายในพื้นที่ สำหรับผู้ที่อยู่เฉพาะภูมิลำเนา เน้นการกระจายโอกาสทางด้านการศึกษา เช่น โควตาภาคเหนือ 17 จังหวัด
- โควตา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
- โควตาความสามารถพิเศษต่าง ๆ ที่ต้องมีการสอบ
การสมัคร : มหาวิทยาลัยเปิดรับเอง
กำหนดการสมัครและคัดเลือก : ธ.ค. 60 – เม.ย. 61
- โควตาพื้นที่ หรือ โควตาโรงเรียนในเครือข่ายในพื้นที่ สำหรับผู้ที่อยู่เฉพาะภูมิลำเนา เน้นการกระจายโอกาสทางด้านการศึกษา เช่น โควตาภาคเหนือ 17 จังหวัด
- โควตา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
- โควตาความสามารถพิเศษต่าง ๆ ที่ต้องมีการสอบ
การสมัคร : มหาวิทยาลัยเปิดรับเอง
กำหนดการสมัครและคัดเลือก : ธ.ค. 60 – เม.ย. 61
ผ่านไปแล้ว 2 Mission จะเข้า Mission 3 เราต้องมีอาวุธเพิ่ม เพราะความยากก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ลำพังอาวุธพื้นฐานเราไปไม่ถึงเส้นชัยแน่ ๆ เราเลยต้องมี Rare Items อาวุธสำคัญที่จะทำให้เราผ่านด่านต่อไป !
Rare Items
อาวุธสำคัญ
O-NET
จะใช้คะแนน 5 กลุ่มสาระ คือ คณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์, ภาษาอังกฤษ, ภาษาไทย และสังคมศึกษา การสอบ O-NET เพื่อน ๆ ม. 6 ทุกคนต้องสอบให้ครบทุกวิชาภายในปีการศึกษานั้น สอบได้แค่ครั้งเดียว นักเรียนสายสามัญทางโรงเรียนจะสมัครสอบให้เอง ส่วนเด็กสายอาชีพ (ปวช., กศน.) สามารถสอบได้ แต่ต้องสมัครเองทางเว็บไซต์สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) (คะแนนมีอายุตลอดชีวิต)
GAT
การทดสอบวิชาความถนัดทั่วไป แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
1. ความสามารถในการอ่าน เขียน คิดวิเคราะห์ และแก้โจทย์ปัญหา หรือเรียกง่าย ๆ ว่า GAT เชื่อมโยง 50 %
2. ความสามารถในการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ 50 %
PAT
การทดสอบความถนัดทางวิชาชีพและวิชาการ มี 7 ประเภท ได้แก่
PAT 1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์
PAT 2 ความถนัดทางวิทยาศาสตร์
PAT 3 ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์
PAT 4 ความถนัดทางสถาปัตยกรรมศาสตร์
PAT 5 ความถนัดทางวิชาชีพครู
PAT 6 ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์
PAT 7 ความถนัดทางภาษาต่างประเทศ
การสอบ GAT/PAT ต้องสมัครสอบเองทางเว็บไซต์ สทศ. ไม่ต้องสอบทุกวิชา เลือกสอบเฉพาะวิชาที่ใช้ ซึ่งแต่ละคณะ/สาขาวิชา จะกำหนดใช้วิชา GAT/PAT ไม่เหมือนกัน ต้องศึกษาข้อมูลของแต่ละคณะ/สาขาตามที่กล่าวไปข้างต้น GAT/PAT ในปีการศึกษา 2561 จะแตกต่างกับปีที่ผ่านมา จากสอบ 2 รอบจะเหลือแค่สอบรอบเดียวเท่านั้น (คะแนนมีอายุ 2 ปี)
9 วิชาสามัญ คือ วิชาคณิตศาสตร์, ฟิสิกส์, เคมี, ชีววิทยา, ภาษาอังกฤษ, ภาษาไทย, สังคมศึกษา, คณิตศาสตร์ 2 และวิทยาศาสตร์ทั่วไป เช่นเดียวกันกับ GAT/PAT ไม่ต้องสอบทุกวิชา เลือกสอบเฉพาะวิชาที่ใช้ก็พอ การสอบ 9 วิชาสามัญ ในปีการศึกษา 2561 จะแตกต่างจากปีที่ผ่านมาตรงที่ปีก่อน ๆ คะแนนจะนำไปใช้กับระบบรับตรงเท่านั้น แต่ของปี 61 จะนำมาใช้ในระบบการสมัครหลักด้วย (คะแนนมีอายุ 2 ปี)
สอบข้อเขียน/สอบตรง บางมหาวิทยาลัยจะกำหนดใช้ข้อสอบที่ทางมหาวิทยาลัยเป็นผู้ออกข้อสอบเอง อาจจะเป็นวิชาสามัญทั่วไป หรือวิชาความถนัดต่าง ๆ อย่างความถนัดทางเภสัช ความถนัดทางวิชาชีพครู การสอบและการสมัครสอบก็ขึ้นอยู่กับทางสถาบันกำหนด ควรติดตาม คอยอัพเดตข่าวสารจากทางมหาวิทยาลัยอย่างสม่ำเสมอ
จะใช้คะแนน 5 กลุ่มสาระ คือ คณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์, ภาษาอังกฤษ, ภาษาไทย และสังคมศึกษา การสอบ O-NET เพื่อน ๆ ม. 6 ทุกคนต้องสอบให้ครบทุกวิชาภายในปีการศึกษานั้น สอบได้แค่ครั้งเดียว นักเรียนสายสามัญทางโรงเรียนจะสมัครสอบให้เอง ส่วนเด็กสายอาชีพ (ปวช., กศน.) สามารถสอบได้ แต่ต้องสมัครเองทางเว็บไซต์สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) (คะแนนมีอายุตลอดชีวิต)
GAT
การทดสอบวิชาความถนัดทั่วไป แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
1. ความสามารถในการอ่าน เขียน คิดวิเคราะห์ และแก้โจทย์ปัญหา หรือเรียกง่าย ๆ ว่า GAT เชื่อมโยง 50 %
2. ความสามารถในการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ 50 %
PAT
การทดสอบความถนัดทางวิชาชีพและวิชาการ มี 7 ประเภท ได้แก่
PAT 1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์
PAT 2 ความถนัดทางวิทยาศาสตร์
PAT 3 ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์
PAT 4 ความถนัดทางสถาปัตยกรรมศาสตร์
PAT 5 ความถนัดทางวิชาชีพครู
PAT 6 ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์
PAT 7 ความถนัดทางภาษาต่างประเทศ
การสอบ GAT/PAT ต้องสมัครสอบเองทางเว็บไซต์ สทศ. ไม่ต้องสอบทุกวิชา เลือกสอบเฉพาะวิชาที่ใช้ ซึ่งแต่ละคณะ/สาขาวิชา จะกำหนดใช้วิชา GAT/PAT ไม่เหมือนกัน ต้องศึกษาข้อมูลของแต่ละคณะ/สาขาตามที่กล่าวไปข้างต้น GAT/PAT ในปีการศึกษา 2561 จะแตกต่างกับปีที่ผ่านมา จากสอบ 2 รอบจะเหลือแค่สอบรอบเดียวเท่านั้น (คะแนนมีอายุ 2 ปี)
9 วิชาสามัญ คือ วิชาคณิตศาสตร์, ฟิสิกส์, เคมี, ชีววิทยา, ภาษาอังกฤษ, ภาษาไทย, สังคมศึกษา, คณิตศาสตร์ 2 และวิทยาศาสตร์ทั่วไป เช่นเดียวกันกับ GAT/PAT ไม่ต้องสอบทุกวิชา เลือกสอบเฉพาะวิชาที่ใช้ก็พอ การสอบ 9 วิชาสามัญ ในปีการศึกษา 2561 จะแตกต่างจากปีที่ผ่านมาตรงที่ปีก่อน ๆ คะแนนจะนำไปใช้กับระบบรับตรงเท่านั้น แต่ของปี 61 จะนำมาใช้ในระบบการสมัครหลักด้วย (คะแนนมีอายุ 2 ปี)
สอบข้อเขียน/สอบตรง บางมหาวิทยาลัยจะกำหนดใช้ข้อสอบที่ทางมหาวิทยาลัยเป็นผู้ออกข้อสอบเอง อาจจะเป็นวิชาสามัญทั่วไป หรือวิชาความถนัดต่าง ๆ อย่างความถนัดทางเภสัช ความถนัดทางวิชาชีพครู การสอบและการสมัครสอบก็ขึ้นอยู่กับทางสถาบันกำหนด ควรติดตาม คอยอัพเดตข่าวสารจากทางมหาวิทยาลัยอย่างสม่ำเสมอ
กำหนดการสอบ
GAT/PAT สอบวันที่ 24 - 27 ก.พ. 61
O-NET สอบวันที่ 3 - 4 มี.ค. 61
วิชาเฉพาะแพทย์ กสพท สอบวันที่ 10 มี.ค. 61
9 วิชาสามัญ สอบวันที่ 17 - 18 มี.ค. 61
O-NET สอบวันที่ 3 - 4 มี.ค. 61
วิชาเฉพาะแพทย์ กสพท สอบวันที่ 10 มี.ค. 61
9 วิชาสามัญ สอบวันที่ 17 - 18 มี.ค. 61
มีอาวุธสำคัญครบแล้ว ก็ลุยด่านต่อไปกันเลย
TCAS รอบที่ 3 รับตรงร่วมกัน
สำหรับนักเรียนทั่วไป ทุกมหาวิทยาลัยตกลงใช้ข้อสอบกลางร่วมกัน แต่ละสถาบันจะกำหนดเกณฑ์การใช้คะแนนได้เป็นอิสระ เช่น โครงการรับตรง กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท) หรือรับตรงโครงการหลักของแต่ละมหาวิทยาลัย โดยสามารถเลือกได้ 4 สาขาวิชา ไม่ต้องมีลำดับ การเลือก 4 สาขาวิชา โดยไม่มีอันดับ คือ 4 สาขานี้ไม่ต้องเรียงลำดับคะแนนสูง-ต่ำ สาขาไหนอยู่ก่อนอยู่หลังไม่มีผลต่อการคัดเลือก และมีโอกาสสอบติดมากกว่า 1 อันดับ
ตัวอย่างการเลือกอับดับ
อันดับ 1 กสพท (ซึ่งใน กสพท สามารถเลือกอันดับย่อยได้อีก 4 อันดับ)
อันดับ 2 คณะครุศาสตร์ โครงการรับตรง แบบปกติ จุฬาลงกรณ์
อับดับ 3 คณะวิทยาศาสตร์ โครงการรับตรง KU Admission ม.เกษตรศาสตร์
อันดับ 4 คณะนิติศาสตร์ โครงการรับตรง ม.ธรรมศาสตร์
การสมัคร : ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เป็นหน่วยกลางในการรับสมัคร
กำหนดการสมัคร : 9 - 13 พ.ค. 61
ตัวอย่างการเลือกอับดับ
อันดับ 1 กสพท (ซึ่งใน กสพท สามารถเลือกอันดับย่อยได้อีก 4 อันดับ)
อันดับ 2 คณะครุศาสตร์ โครงการรับตรง แบบปกติ จุฬาลงกรณ์
อับดับ 3 คณะวิทยาศาสตร์ โครงการรับตรง KU Admission ม.เกษตรศาสตร์
อันดับ 4 คณะนิติศาสตร์ โครงการรับตรง ม.ธรรมศาสตร์
การสมัคร : ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เป็นหน่วยกลางในการรับสมัคร
กำหนดการสมัคร : 9 - 13 พ.ค. 61
TCAS รอบที่ 4 Admissions
ระบบกลางในการรับสมัครสำหรับนักเรียนทั่วไป นักเรียนสามารถสมัครได้ 4 สาขาวิชา แบบมีลำดับ โดยใช้เกณฑ์แต่ละสาขาวิชาเหมือนกัน (ตามเกณฑ์ค่าน้ำหนักที่กำหนดไว้ล่วงหน้า 3 ปีมาแล้ว) คะแนนที่ใช้ GPAX, O-NET, GAT/PAT
เลือกสมัครได้ 4 สาขาวิชา แบบมีลำดับ คือจะต้องเรียงคะแนนจากมากไปน้อย นำคะแนนต่ำสุดของปีก่อนของแต่ละสาขามาเรียง จากมากสุดไปน้อยสุด เพราะอันดับมีผลกับการคัดเลือก และมีโอกาสติดแค่ที่เดียว
ตัวอย่างการเลือกอันดับ
อับดับ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์ ม.จุฬาฯ คะแนนต่ำสุด 20,322
อันดับ 2 คณะวิศวกรรมศาสตร์ กลุ่มวิทยาเขตบางเขน ม.เกษตร คะแนนต่ำสุด 18,116
อันดับ 3 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาวิศวกรรมอุตสาหการ ม.เชียงใหม่ คะแนนต่ำสุด 15,823
อันดับ 4 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาวิศวกรรมอุตสาหการ ม.บูรพา คะแนนต่ำสุด 14,363
การสมัคร : ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เป็นหน่วยกลางในการรับสมัคร
กำหนดการสมัคร : 6 - 10 มิ.ย. 61
เลือกสมัครได้ 4 สาขาวิชา แบบมีลำดับ คือจะต้องเรียงคะแนนจากมากไปน้อย นำคะแนนต่ำสุดของปีก่อนของแต่ละสาขามาเรียง จากมากสุดไปน้อยสุด เพราะอันดับมีผลกับการคัดเลือก และมีโอกาสติดแค่ที่เดียว
ตัวอย่างการเลือกอันดับ
อับดับ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์ ม.จุฬาฯ คะแนนต่ำสุด 20,322
อันดับ 2 คณะวิศวกรรมศาสตร์ กลุ่มวิทยาเขตบางเขน ม.เกษตร คะแนนต่ำสุด 18,116
อันดับ 3 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาวิศวกรรมอุตสาหการ ม.เชียงใหม่ คะแนนต่ำสุด 15,823
อันดับ 4 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาวิศวกรรมอุตสาหการ ม.บูรพา คะแนนต่ำสุด 14,363
การสมัคร : ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เป็นหน่วยกลางในการรับสมัคร
กำหนดการสมัคร : 6 - 10 มิ.ย. 61
คุณสมบัติพร้TCAS รอบที่ 5 รับตรงอิสระ
หลังจากการรับสมัครรับตรง/โควตา, รับตรงร่วมกัน และแอดมิชชั่น จบไปแล้ว หากทางมหาวิทยาลัยยังมีที่นั่งว่างเหลือหรือต้องการนักศึกษาเพิ่ม ก็จะเปิดรับตรงอิสระเพิ่มเติม ซึ่งเป็นด่านสุดท้ายของคนที่หลุดมาจากทุกด่าน แต่คณะ/สาขาวิชาที่เปิดรับอาจจะไม่เยอะ และอาจจะไม่ใช่คณะในฝันของเรา ดังนั้นควรตั้งใจวางแผนการเล่นเกมให้ดี ตั้งแต่ด่านแรก
การสมัคร : มหาวิทยาลัยเปิดรับเอง
กำหนดการสมัครและคัดเลือก : ก.ค. 61
การสมัคร : มหาวิทยาลัยเปิดรับเอง
กำหนดการสมัครและคัดเลือก : ก.ค. 61
เนื้อหาที่ออกสอบ จำนวนข้อและตัวอย่างข้อสอบ GAT-PAT ปีการศึกษา 2561
เนื้อหาในการสอบข้อสอบ
GAT
PAT7.3 ภาษาญี่ปุ่น
PAT7.4 ภาษาจีน
PAT7.5 ภาษาอาหรับ
PAT7.6 ภาษาจีน
PAT7.7 ภาษาเกาหลี
รูปแบบและข้อสอบGAT/PAT
คลิป
สรุป วิธีคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัย ระบบใหม่ TCAS
คลิป
ติวครูผู้ช่วย 61 เหตุการณ์ปัจจุบัน
ข้อมูล สำหรับที่อยากศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา
ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
https://www.cmu.ac.th/index.php
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
การรับนักเรียน/บุคคล เข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรี
ประจำปีการศึกษา 2561
http://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/59090/
ทปอ. ประกาศเปลี่ยนระบบการสอบเข้ามหาวิทยาลัยใหม่ เป็น “TCAS” การเปลี่ยนระบบครั้งนี้เพิ่มการรับสมัครเป็น 5 รอบ โดยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ก็ได้มีระเบียบการรับสมัครในระบบ TCAS ออกมาแล้ว ซึ่งเปิดรับ 720 สาขาวิชา จำนวนรับทั้งหมด 9,091 คน ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไร พร้อมแล้วมาดูกันเลย
http://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/59090/
ทปอ. ประกาศเปลี่ยนระบบการสอบเข้ามหาวิทยาลัยใหม่ เป็น “TCAS” การเปลี่ยนระบบครั้งนี้เพิ่มการรับสมัครเป็น 5 รอบ โดยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ก็ได้มีระเบียบการรับสมัครในระบบ TCAS ออกมาแล้ว ซึ่งเปิดรับ 720 สาขาวิชา จำนวนรับทั้งหมด 9,091 คน ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไร พร้อมแล้วมาดูกันเลย
http://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/59090/
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
fantastic dolphins มหัศจรรย์โลมา
Fantastic dolphins from Tanchanok Kanthasorn
-
พระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ https://sites.google.com/a/scphkk.ac.th/home/act_computer2560 พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการกระทำควา...
-
ความรู้เกี่ยวกับBlog https://2016.us.wordcamp.org/ บล็อก ( อังกฤษ : blog ) เป็นคำรวมมาจากคำว่า เว็บล็อก ( อังก...