วันพุธที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

ใบงานที่4 สารคดีที่สนใจ


มหัศจรรย์โลมา

โลมา เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมซึ่งอาศัยอยู่ในน้ำและมีสติปัญญาสูงชนิดหนึ่ง มีเชื้อสายใกล้เคียงกับ วาฬ ในภาษาอังกฤษเรียกโลมาว่า Dolphin มาจากภาษากรีกโบราณ δελφίς เดลฟิส (delphis) ตำนานกรีก เล่าว่า เทพแห่งไวน์ของกรีก ชื่อ ไดโอนีซอส (Dionysos) แปลงลงมาเป็นมนุษย์ และได้โดยสารเรือข้ามจากเกาะอิคาเรีย (Ikaria) ไปยังเกาะนาซอสในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไดโอนีซอสนั้นแม้จะเป็นเทพ ทว่าไม่มีญาณหยั่งรู้ว่าเรือลำที่ตนโดยสารไปนั้นเป็นเรือโจร ลูกเรือจะปล้นผู้โดยสารทุกคนถ้วนหน้า เมื่อถึงคราวของไดโอนีซอส เขาจึงถูกลูกเรือปล้น และคิดจะจับเขาไปขายเป็นทาส ด้วยเหตุนี้ เขาจึงจำต้องแสดงตนว่าเป็นเทพ และสาปให้เรือมีเถาองุ่นขึ้นเต็ม มีเสียงขลุ่ยดังขึ้น พวกลูกเรือตกใจ จึงกระโดดน้ำหนีไปหมด และได้กลายร่างเป็นปลาโลมา มาจนกระทั่งทุกวันนี้ เมื่อกลายเป็นปลาโลมา นิสัยของลูกเรือก็เปลี่ยนไปด้วย กลายเป็นสัตว์ที่ใจดี มีเมตตา แถมยังช่วยเทพแห่งสมุทร คือ โพซิดอนหาเจ้าสาวอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ปลาโลมาจึงได้รับเกียรติจากโพซิดอน ตั้งชื่อ กลุ่มดาวกลุ่มหนึ่งว่า กลุ่มดาวโลมาอีกด้วย ที่จริงแล้วโลมาเคยเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อยู่บนบกเหมือนมนุษย์ แต่เพื่อความพยายามหาอาหาร เลี้ยงปากเลี้ยงท้อง และหนีศัตรู โลมาจึงค่อยๆปรับตัวให้ลงไปอยู่ในน้ำ เพื่อความอยู่รอดแทน นั่นเป็นตำนานของคนโบราณ แต่ในความเป็นจริงแล้ว โลมาเป็นสัตว์เลือดอุ่นอาศัยอยู่ในน้ำ คลอดลูก เป็นตัว แถมยังเลี้ยงลูกด้วยนมเหมือนมนุษย์

 ...*...*...*...*...*...*...*...*...*...*...*...*

 โลมาคำว่า "Dolphin" ซึ่งเป็นชื่อสามัญในภาษาอังกฤษที่ใช้เรียกโลมา มาจากภาษากรีกโบราณคำว่า δελφίς "เดลฟิส" (Delphis) ในเทพปกรณัมกรีก ไดอะไนซัส เทพเจ้าแห่งไวน์และการเฉลิมฉลอง และหนึ่งในเทพโอลิมปัส ได้แปลงกายลงมาเป็นมนุษย์ ชื่อ เดลฟิส และได้โดยสารเรือข้ามจากเกาะอิคาเรียไปยังเกาะนาซอส ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ไดอะไนซัสนั้นแม้จะเป็นเทพ ทว่าไม่มีญาณหยั่งรู้ว่าเรือลำที่ตนโดยสารไปนั้นเป็นเรือโจร ลูกเรือจะปล้นผู้โดยสารทุกคนถ้วนหน้า เดลฟิสถูกลูกเรือปล้น และคิดจะจับไปขายเป็นทาส ด้วยเหตุนี้ เดลฟิสจำต้องแสดงตนเป็นเทพเจ้า และสาปให้เรือมีเถาองุ่นขึ้นเต็ม มีเสียงขลุ่ยดังขึ้น พวกลูกเรือตกใจและกระโดดน้ำหนีไปหมด และได้กลายร่างเป็นโลมา มาจนกระทั่งทุกวันนี้ เมื่อกลายเป็นโลมา นิสัยของลูกเรือก็เปลี่ยนไปกลายเป็นสัตว์ที่ใจดี มีเมตตา ทั้งยังเป็นผู้ช่วยของเทพเจ้าแห่งมหาสมุทร คือ โพไซดอน อีกด้วย ด้วยเหตุนี้โลมาจึงได้รับเกียรติจากโพไซดอน บันดาลให้เป็นกลุ่มดาวกลุ่มหนึ่งที่ชื่อว่า กลุ่มดาวโลมา (Delphinus)

รูปร่างของโลมา

โลมา อาศัยอยู่กระจัดกระจายทั่วไปในมหาสมุทรนับร้อยชนิด แต่ในประเทศไทยที่เรารู้จักกันดีมีอยู่ 2 ชนิด คือ โลมาปากขวด กับ โลมาหัวบาตร บางครั้งยังพบโลมาอยู่ในแม่น้ำอีกด้วย เช่น ในแม่น้ำคงคาที่ประเทศอินเดีย และในแม่น้ำโขง เป็นโลมาหัวบาตรน้ำจืด โลมา มีอวัยวะต่างๆทุกๆ ส่วนเหมือนกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทั่วไป หากแต่ละส่วนของอวัยวะ จะปรับเปลี่ยนต่างไปจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทั่วไป ดังนี้ จมูก โลมามีจมูกไว้หายใจ แต่จมูกนั้นต่างไปจากจมูกของสัตว์ อื่นๆ เพราะตั้งอยู่กลางกระหม่อมเลยทีเดียว เพื่อให้สะดวกต่อการเชิดหัวขึ้นหายใจเหนือน้ำ จากจมูกมีท่อหายใจต่อลงมาถึงปอดในตัว จึงไม่จำเป็นต้องให้น้ำผ่านเหงือกเข้าไปในปอดเพื่อช่วยหายใจเหมือนปลาทั่วไป หู หูของโลมานั้นเป็นเพียงแค่รูเล็กจิ๋วติดอยูด้านข้างของหัวเท่านั้น แต่หูของโลมามีประสิทธิภาพสูงมาก รับคลื่นเสียงใต้น้ำได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะกับภาษาที่โลมาสื่อสารกันด้วยเสียงที่มีคลื่นความถี่สูง การมองเห็น โลมามีดวงตาแจ่มใส เหมือนตาสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มีเปลือกตาปิดได้ และในเวลา กลางคืนตาก็จะเป็นประกาย เหมือนตาแมว ตาของโลมาไม่มีเมือกหุ้มเหมือนตาปลา และมองเห็นได้ไกลถึง 50 ฟุต เมื่ออยู่ในอากาศ สีผิว สีผิวของโลมาแต่ละชนิดจะแตกต่างกัน ส่วนมากจะออกไปในโทนสีเทา ตั้งแต่เข้มเกือบดำ จนกระทั่งถึงเกือบขาว แต่โดยทั่วไปปลาโลมาจะมีสีผิวแบบทูโทนคัลเลอร์ คือมีสองสีตัดกัน ด้านบน เป็นสีเทาเข็ม ด้านล่างเป็นสีเกือบขาว เพื่อพรางตัวในทะเล ไม่ให้ศัตรูเห็น เพราะเมื่อมองจากด้านบน สีเข็มจะกลืนกับสีน้ำทะเล และถ้ามองจากด้านล่างขึ้นไป สีขาวก็จะกลืนเข้ากับแสงแดดเหนือผิวน้ำ

•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.••*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•

ความฉลาดของโลมา

ว่ากันว่า โลมานั้นฉลาดไม่แพ้เด็กตัวเล็กๆ เลยทีเดียว ที่เป็นเช่นนี้เพราะโลมามีขนาดสมอง เมื่อเทียบกับลำตัวขนาดใหญ่มาก แถมภายในสมองยังซับซ้อนอีกด้วย โลมาปากขวดนั้นถึงกับมีขนาดของสมอง เทียบกับลำตัวใหญ่เป็นที่สองรองจากมนุษย์ และ สมองส่วนซีรีบรัม อันเป็นส่วนของความจำ และการเรียนรู้ ก็มีขนาดใหญ่มาก เป็นศูนย์รวมของการรับกลิ่น การมองเห็น และการได้ยิน จนทำให้ นักวิทยาศาสตร์ผู้หนึ่ง กล่าวว่า ไม่แน่นักว่าโลมาอาจจะฉลาดเท่ากับมนุษย์ก็เป็นได้ โลมาผู้ช่วยชีวิต เรื่องเล่าเกี่ยวกับปลาโลมาช่วยชีวิตคนนั้นมีอยู่บ่อยครั้ง แต่จริงๆแล้ว เป็นเพราะปลาโลมาต้องการช่วยชีวิตคนจริงๆ หรือ เชื่อว่าจริงๆ แล้ว ปลาโลมานั้นเป็นปลาที่อ่อนโยน รักสนุก และขี้เล่น ที่มันช่วยคนอาจเป็นเพราะมันต้องการเข้ามาเล่นสนุกๆ เท่านั้น หรือไม่เช่นนั้นก็อาจเป็น สัญชาตญาณของแม่ปลาที่มักจะดุนลูกขึ้นไปหายใจบนผิวน้ำอยู่เสมอ โดยเฉพาะถ้าลูกปลาเสียชีวิต ระหว่างคลอด จะพบว่าแม่ปลาจะพยายามดุนศพลูกเอาไว้ให้ใกล้ผิวน้ำมากที่สุด ภัยร้ายของโลมา ในประเทศไทย โลมาที่ติดอวนมาแล้ว จะถูกชำแหละเนื้อขายด้วยราคาถูกๆ เนื่องจากเนื้อปลาโลมามีความคาวมาก จึงไม่มีผู้นิยมบริโภคเท่าใดนัก ในประเทศญี่ปุ่น แต่เดิมเคยเป็นประเทศที่ล่าปลาวาฬมากที่สุดในโลก จนกระทั่งปลาวาฬใกล้สูญพันธ์ จึงถูกสั่งห้ามล่าปลาวาฬ หันมาล่าปลาโลมาแทน โดยเพิ่มปริมาณการล่าโลมาขึ้นเป็นสี่เท่า ทำให้โลมาในทะเลญี่ปุ่นลดน้อยลงเป็นอันมาก

◆ ◇ลักษณะ◆ ◇


โลมา อาศัยอยู่กระจัดกระจายทั่วไปในมหาสมุทรโดยทั่วไป ลักษณะของโลมาที่เป็นที่รู้จักกันดี คือ มีรูปร่างเพรียวยาวคล้ายตอร์ปิโดหรือกระสวย ส่วนใหญ่มีปลายปากยื่นแหลม แต่ก็มีบางชนิดที่มีส่วนหัวกลมมนคล้ายแตงโมหรือบาตรพระ มีหางแบนในแนวนอน ไม่ใช่แนวตั้งเหมือนปลา เพื่อช่วยในการพุ้ยน้ำในแนวขึ้น-ลง ไม่มีขนปกคลุมลำตัว ไม่มีเกล็ด รวมทั้งไม่มีเมือกด้วย

☼ ☀ ☁ ☂ ☃☄ ☾ ☽☀ ☁ ☂ ☃☄ ☾ ☽

นอกจากนี้แล้วยังมีมีอวัยวะต่าง ๆ ทุกส่วนเหมือนกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทั่วไป หากแต่ละส่วนของอวัยวะจะปรับเปลี่ยนต่างไปจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทั่วไป ดังนี้ จมูกของโลมามีไว้เพื่อหายใจ แต่จมูกนั้นต่างไปจากจมูกของสัตว์อื่น ๆ เพราะตั้งอยู่กลางกระหม่อมเป็นรูกลม เพื่อให้สะดวกต่อการเชิดหัวขึ้นหายใจเหนือน้ำ จากจมูกมีท่อหายใจต่อลงมาถึงปอดในตัว จึงไม่จำเป็นต้องให้น้ำผ่านเหงือกเข้าไปในปอดเพื่อช่วยหายใจเหมือนปลาหรือสัตว์น้ำอย่างอื่น และจมูกของโลมาตรงส่วนนี้ไม่สามารถใช้ในการรับกลิ่นได้เหมือนกับสัตว์อื่นทั่วไป ซึ่งในบรรดาวาฬมีฟันทุกชนิดต่างก็เป็นเช่นนี้เหมือนกันหมด หูของโลมานั้นเป็นเพียงแค่รูขนาดเล็กติดอยู่ด้านข้างของหัวเท่านั้น มีประสิทธิภาพสูงมาก สามารถรับคลื่นเสียงใต้น้ำได้อย่างยอดเยี่ยม เพราะโลมาเหมือนวาฬตรงที่เป็นสัตว์ที่ติดต่อสื่อสารกันด้วยคลื่นเสียงที่ปล่อยออกมา โดยเฉพาะกับภาษาที่โลมาสื่อสารกันด้วยเสียงที่มีคลื่นความถี่สูง โลมามีดวงตาไม่เล็กเหมือนอย่างวาฬ แววตาแจ่มใส เหมือนตาสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมประเภทอื่น มีเปลือกตาปิดได้ และในเวลากลางคืนตาก็จะเป็นประกาย คล้ายตาแมว ตาของโลมาไม่มีเมือกหุ้มเหมือนตาปลา และมองเห็นได้ไกลถึง 50 ฟุต เมื่ออยู่ในอากาศ สีผิวของโลมาแต่ละชนิดจะแตกต่างกัน ส่วนมากจะออกไปในโทนสีเทา ตั้งแต่เข้มเกือบดำ จนกระทั่งถึงเกือบขาว แต่โดยทั่วไปโลมาจะมีสีผิวแบบ 2 สีตัดกัน ด้านบน เป็นสีเทาเข็ม ด้านล่างเป็นสีเกือบขาว เพื่อพรางตัวในทะเล ไม่ให้ศัตรูเห็น เพราะเมื่อมองจากด้านบน สีเข็มจะกลืนกับสีน้ำทะเล และถ้ามองจากด้านล่างขึ้นไป สีขาวก็จะกลืนเข้ากับแสงแดดเหนือผิวน้ำ
โลมาถือเป็นสัตว์ที่ว่ายน้ำได้อย่างคล่องแคล่วรวดเร็ว มีอัตราความเร็วในการว่ายน้ำประมาณ 55-58 กิโลเมตร/ชั่วโมง

♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥






☮การจำแนก☮☮


จากรายงานของทีมงานนักวิจัยจากสถาบันวิจัยชีววิทยาและประมงทะเลจังหวัดภูเก็ตพบว่า ในน่านน้ำทะเลไทยนั้นมีรายงานการพบโลมาและวาฬจากอดีตจนถึงปัจจุบัน 19 ชนิด คือ วาฬฟิน วาฬบรูด้า วาฬหัวทุย วารฬหัวทุยเล็ก วาฬหัวทุยแคระ วาฬฟันเขี้ยว วาฬเพชฌฆาต วาฬเพชฌฆาตดำ วาฬนำร่องครีบสั้น วาฬหัวแตงโม โลมาเผือกหรือโลมาหลังโหนก โลมาปากขวด โลมาฟันห่าง โลมาปากยาว โลมากระโดด โลมาแถบ โลมาลายจุด โลมาหัวบาตรหรือโลมาอิระวดี และโลมาหัวบาตรหลังเรียบ โดยทั่วไปแล้ว โลมาจะถูกจัดให้อยู่ในวงศ์ Delphinidae ซึ่งจำแนกออกเป็นสกุลต่าง ๆ ได้ทั้งสิ้น 17 สกุล
โลมาแบ่งออกเป็นชนิดต่าง ๆ ได้ราว 40 ชนิด แต่ก็ยังมีโลมาบางประเภทที่ถูกจัดออกเป็นวงศ์ต่างออกไป



สติปัญญา   

♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥

ลมานั้นเป็นสัตว์ที่มีความเฉลียวฉลาดมาก เชื่อว่า ความฉลาดของโลมานั้นเทียบเท่าเด็กตัวเล็ก ๆ เลยทีเดียว หรือเป็นไปได้ว่าอาจจะฉลาดกว่าชิมแปนซี ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีความใกล้เคียงกับมนุษย์มากที่สุดด้วยซ้ำ ที่เป็นเช่นนี้เพราะโลมามีขนาดของสมองเมื่อเทียบกับลำตัวแล้วนับว่าใหญ่มาก แถมภายในสมองยังซับซ้อนอีกด้วย โดยเฉพาะโลมาปากขวดนั้นถึงกับมีขนาดของสมอง เมื่อเทียบกับลำตัวใหญ่แล้ว ถือเป็นสัตว์ที่มีขนาดสมองใหญ่เป็นที่สองรองจากมนุษย์และสมองส่วนซีรีบรัม อันเป็นส่วนของความจำและการเรียนรู้ ก็มีขนาดใหญ่มาก เป็นศูนย์รวมของประสาทการรับกลิ่น, การมองเห็น และการได้ยิน จนอาจเชื่อได้ว่าแท้จริงแล้ว โลมาอาจมีความฉลาดเทียบเท่ากับมนุษย์ก็เป็นได้ ซึ่งจากความฉลาดแสนรู้ของโลมา จึงทำให้เป็นที่นิยมนำมาฝึกแสดงโชว์ต่าง ๆ ตามสวนสัตว์และสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำต่าง ๆ


นอกจากนี้แล้ว โลมายังเป็นสัตว์ที่มีพฤติกรรมชอบช่วยเหลือมนุษย์ยามเมื่อเรือแตกหรือใกล้จะจมน้ำ ทั้งนี้เพราะโลมาเป็นสัตว์ที่รักสนุกและขี้เล่น ที่โลมาช่วยชีวิตมนุษย์อาจเป็นเพราะต้องการเข้ามาเล่นสนุกเท่านั้น หรือไม่เช่นนั้นก็อาจเป็นสัญชาตญาณความเป็นแม่ที่มักจะดุนลูกขึ้นไปหายใจบนผิวน้ำอยู่เสมอ โดยเฉพาะถ้าลูกโลมาเสียชีวิตระหว่างคลอด จะพบว่าแม่โลมาจะพยายามดุนศพลูกเอาไว้ให้ใกล้ผิวน้ำมากที่สุดโดยปกติแล้ว เนื้อโลมาไม่ใช่อาหารหลักเหมือนสัตว์เศรษฐกิจทั่วไป แต่ก็มีบางประเทศ อาทิ ญี่ปุ่นนิยมบริโภคเนื้อโลมาและวาฬ เดิมญี่ปุ่นนั้นล่าวาฬเป็นหลัก แต่ต่อมาได้มีการอนุรักษ์และกฎหมายที่เข้มงวดขึ้น จึงหันมาล่าโลมาแทน โดยเพิ่มปริมาณการล่าโลมาขึ้นเป็นสี่เท่า ทำให้โลมาในทะเลญี่ปุ่นลดน้อยลงเป็นอันมาก
โลมาสีชมพู ชื่อสามัญอีกชื่อหนึ่งว่า โลมาหลังโหนก และชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Sousa chinensis


✿.。.:* *.:。✿   ลักษณะทั่วไป✿.。.:* *.:。✿


โลมาสีชมพูมีขนาดประมาณ  2.2-2.8 เมตร ตัวเมียจะเล็กกว่าตัวผู้เล็กน้อย หนักประมาณ 150-230 กิโลกรัม ตัวอ่อนมีขนาดตัวประมาณ 1 เมตร อายุเฉลี่ยประมาณ 40 ปี มีสีที่หลากหลายขึ้นอยู่กับอายุหรือ ฝูง  ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นสีเทาขาว  สีดำ และสีชมพู ตัวอ่อนจะมีสีเข้มกว่าตัวเต็มวัย ยิ่งแก่เท่าไหร่สีผิวจะยิ่งเป็นสีชมพูมากขึ้น บริเวณผิวด้านล่างจะเป็นจุดๆ และมีสีที่สว่างกว่าด้านบน เมื่อแรกเกิดจะมีสีดำ วัยเด็ก จะมีสีเทา วัยรุ่นเริ่มจะมีจุดสีเทาปนชมพูเกิดขึ้น วัยผู้ใหญ่จะเป็นสีขาวออกชมพูและจุดสีเทาชมพูจะหายไป


...*...*...*...*สีชมพูมาจากไหน...*...*...*...*


โลมาสีชมพูยิ่งมีอายุมากจะมีสีสว่างขึ้นจนถึงเป็นสีชมพู สีชมพูนี้ไม่ได้มาจากเซลเม็ดสี แต่มาจากสีของหลอดเลือดที่ทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้เกิดภาวะที่อุณหภูมิของร่างกายสูงเกินไป
พฤติกรรมโดยทั่วไป ชอบอยู่บริเวณชายฝั่ง หรือบริเวณที่มีความลึกไม่เกิน 20 เมตร บริเวณที่โลมาอาศัยอยู่มักจะพบว่า ชายฝั่งทะเลนั้นจะมีป่าชายเลนอยู่ด้วยเสมอ แต่จะต้องอยู่ในบริเวณน้ำตื้นเท่านั้น โลมาสายพันธุ์นี้ชอบอาศัยประจำที่หรือมีการย้ายที่อพยพน้อยมากและอาศัยไม่ห่างจากชายฝั่งเกินระยะ 1 กิโลเมตร ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถพบเห็นได้โดยง่าย โดยมักจะพบเห็นตั้งแต่ตอนเช้า จะอยู่เป็นกลุ่มเล็กๆ ประมาณ 10 ตัว ว่ายน้ำช้า ประมาณ 4.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และจะดำน้ำประมาณ 40-60 วินาที ก่อนจะโผล่ขึ้นมาหายใจ บางครั้งมีพฤติกรรมดุร้ายโดยเฉพาะเมื่อมีผู้ล่าเข้ามา



✿✿✿อาหารของโลมาสีชมพู✿✿✿✿

โลมาสีชมพูชอบกิน ปลาเล็ก ปลาหมึก และสัตว์พวกกุ้ง เคย ปู เป็นต้น  เมื่อออกหาอาหาร จะใช้สัญญาณเอคโค และออกล่าเป็นกลุ่ม ถึงแม้ว่าจะเป็นสัตว์ที่รวมกลุ่ม แต่โลมาสีชมพูก็จะดุร้ายได้เหมือนกัน และจะต้องการแยกตัวเองออกไปพอสมควรจากตัวอื่นเมื่อต้องการหาอาหาร หรือต้องกินอาหาร
โลมาสีชมพูว่ากันว่า โลมานั้นฉลาดไม่แพ้เด็กตัวเล็กๆ เลยทีเดียว ที่เป็นเช่นนี้เพราะโลมามีขนาดสมอง เมื่อเทียบกับลำตัวขนาดใหญ่มาก แถมภายในสมองยังซับซ้อนอีกด้วย โลมาปากขวดนั้นถึงกับมีขนาดของสมอง เทียบกับลำตัวใหญ่เป็นที่สองรองจากมนุษย์ และ สมองส่วนซีรีบรัม อันเป็นส่วนของความจำ และการเรียนรู้ ก็มีขนาดใหญ่มาก เป็นศูนย์รวมของการรับกลิ่น การมองเห็น และการได้ยิน จนทำให้ นักวิทยาศาสตร์ผู้หนึ่ง กล่าวว่า ไม่แน่นักว่าโลมาอาจจะฉลาดเท่ากับมนุษย์ก็เป็นได้ โลมาผู้ช่วยชีวิต เรื่องเล่าเกี่ยวกับปลาโลมาช่วยชีวิตคนนั้นมีอยู่บ่อยครั้ง แต่จริงๆแล้ว เป็นเพราะปลาโลมาต้องการช่วยชีวิตคนจริงๆ หรือ เชื่อว่าจริงๆ แล้ว ปลาโลมานั้นเป็นปลาที่อ่อนโยน รักสนุก และขี้เล่น ที่มันช่วยคนอาจเป็นเพราะมันต้องการเข้ามาเล่นสนุกๆ เท่านั้น หรือไม่เช่นนั้นก็อาจเป็น สัญชาตญาณของแม่ปลาที่มักจะดุนลูกขึ้นไปหายใจบนผิวน้ำอยู่เสมอ โดยเฉพาะถ้าลูกปลาเสียชีวิต ระหว่างคลอด จะพบว่าแม่ปลาจะพยายามดุนศพลูกเอาไว้ให้ใกล้ผิวน้ำมากที่สุด ภัยร้ายของโลมา ในประเทศไทย โลมาที่ติดอวนมาแล้ว จะถูกชำแหละเนื้อขายด้วยราคาถูกๆ เนื่องจากเนื้อปลาโลมามีความคาวมาก จึงไม่มีผู้นิยมบริโภคเท่าใดนัก ในประเทศญี่ปุ่น แต่เดิมเคยเป็นประเทศที่ล่าปลาวาฬมากที่สุดในโลก จนกระทั่ง โลมาสีชมพู จึงชอบที่จะอาศัยอยู่ที่นี่ โดยส่วนใหญ่ ของ โลมาสีชมพู จะหากินเป็นฝูงโดยการ ใช้เสียงความถี่ต่ำไล่ต้อนปลาและกินเป็นอาหาร แต่ตอนนี้ที่ ขนอม วิถีชีวิตของ โลมาสีชมพู ไดเปลี่ยนไปมาก ส่วนหนึ่งเกิดจากนักท่องเที่ยวที่แค่อยากเห็น โลมา จึงซื้อปลาที่ชาวประมงนำมาขายล่อให้โลมา ออกมา ซึ่งคาดการณ์กันว่าหากเป็นอย่างนี้นาน การรวมฝูงเพื่อหาปลา การล่าจะหมดไป สุดท้ายคือการสูญพันธุ์ในที่สุด โดยธรรมชาติ ของโลมาสีชมพู จะชอบโชว์ออฟอยู่แล้ว แค่เราไปเที่ยว โดยเฉพาะการนั่งเรือหางยาว ปลาก็จะแหวกว่ายมาใกล้เรือให้ได้ชมกันอยู่แล้ว

ชนิด อาหารที่พบในกระเพาะของซากโลมาหลังโหนกเกยตื้นว่า พบกลุ่มปลาจวดชนิด Johnius sp. บ่อยที่สุด ตามด้วยชนิด Collichthys lucida และ ปลากะตักชนิด Thryssa spp. และพบหมึกด้วยแต่เป็นจำนวนน้อยในขณะที่การสังเกตจากการสำรวจพบว่า เหยื่อที่โลมากินมีตั้งแต่ปลากระบอก ปลาตะกรับ และปลาที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่ง มีบางครั้งที่พบฝูงโลมา 2-3 ตัวช่วยกันล่าหมึกบริเวณใกล้ชายฝั่ง สังเกตได้จากน้ำหมึกในบริเวณที่มีการล่า จากการสำรวจบริเวณที่พบโลมาแสดง พฤติกรรม   การกินอาหารบริเวณที่มีแหล่งหญ้าทะเลและป่าชายเลนซึ่งเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน และที่อาศัยของสิ่งมีชีวิตนานาชนิด

การพบโลมาสีชมพูที่ประเทศไทย







ⓛⓞⓥⓔ


พฤติกรรมของโลมา

  • พฤติกรรมการหายใจ
           โลมา หลังโหนกมักว่ายอยู่ใกล้ผิวน้ำ โดยชูจะงอยปากขึ้นจากน้ำก่อนที่จะโผล่หัวขึ้นตามมา  แม้จะสามารถดำน้ำได้นานถึง 4-5 นาทีแต่โลมามักจะอยู่ใกล้และหายใจที่ผิวน้ำบ่อยครั้งมากกว่าดำอยู่ใต้น้ำเป็น เวลานานโดยหายใจทุกๆ 40-60 วินาที  เมื่อช่องหายใจโผล่ออกมาสัมผัสอากาศ ลำตัวส่วนใหญ่ยังคงอยู่ใต้น้ำ มีเพียงส่วนหลังเพียงเล็กน้อยและครีบหลังที่โผล่พ้นน้ำ


  • พฤติกรรมการเกี้ยวพาราสีและการผสมพันธุ์ 
            โลมา หลังโหนกสามารถผสมพันธุ์ได้ตลอดทั้งปี จึงพบการเกี้ยวพาราสีและการผสมพันธุ์ของโลมาหลังโหนกอยู่บ่อยครั้งในช่วงที่ มีการแสดงพฤติกรรมทางสังคม และเกิดภายในขนาดของฝูงที่หลากหลาย (4-16 ตัวคละช่วงอายุ) โลมาที่แสดงพฤติกรรมเกี้ยวพาราสีและพฤติกรรมที่คล้ายการผสมพันธุ์ มักจะแยกตัวออกมาจากฝูง ซึ่งอาจมีจำนวน 2-6 ตัว ลักษณะที่แสดงให้ เห็นถึงพฤติกรรมการเกี้ยวพาราสีจะเริ่มจาก โลมาสองตัว (หรือมากกว่า)ว่ายคลอเคลียกันไปมา แสดงให้เห็นโลมาสองตัวว่ายประกบโลมาอีกตัว โดยสองตัวที่อยู่ข้างนอก (คาดว่าน่าจะเป็นตัวผู้) จะปีนขึ้นและถูท้องของตัวเองกับโลมาตัวที่อยู่ตรงกลาง (คาดว่าน่าจะเป็นตัวเมีย) โลมาที่อยู่ตรงกลาง ตัวนั้นจะแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวรวมถึงการตีครีบ และฟาดหาง ซึ่งลักษณะเช่นนี้ วิเคราะห์ว่าเป็นพฤติกรรมแสดงความรำคาญ โดยอาจเป็นไปได้ว่าโลมาตัวผู้ทั้งสองตัวนั้นพยายามที่จะทำการผสมพันธุ์โดยที่โลมาตัวเมียไม่เต็มใจ

  • พฤติกรรมการเลี้ยงดูลูกโลมา (Nursing behavior) 
           โลมา หลังโหนกมีลักษณะเด่นประการหนึ่งคือ รูปแบบของสีบนลำตัวมีการผันแปรไปตามอายุ ลูกโลมาเกิดใหม่จะมีผิวลำตัวส่วนบนเป็นสีเทาเข้มจนถึงสีดำ ไม่มีจุดหรือรอยด่าง มีขนาดตัว 1/3-1/2 ของขนาดตัวเต็มวัย และสีจะอ่อนลงตามอายุ ตัวเต็มวัยจะมีสีขาวอมชมพู จุดหรือรอยด่างบริเวณผิวลำตัวส่วนบนอาจหายไปทั้งหมด 
           จาก
การสำรวจพบลูกโลมาเกิดใหม่จำนวน ตัว สังเกตจากขนาดลำตัว รอยเยื่อหุ้มตัวอ่อน ที่มีลักษณะเป็นเส้นจางๆ ข้างลำตัว จากการสังเกตพฤติกรรมพบว่า แม่โลมามักจะคอยว่ายเคียงคู่ไปกับลูกโลมา โดยจะมีโลมาตัวอื่นมารวมฝูงกันเป็นช่วงเวลาสั้นๆ เพื่อช่วยดูแลระแวดระวังภัยเมื่อมีศัตรูหรือเรือเข้ามาใกล้ ในขณะที่แม่โลมากำลังเลี้ยงดูลูกอ่อนอยู่นั้น แม่โลมาจะระแวดระวังเป็นพิเศษ โดยจะคอยพาลูกว่ายหนีและพยายามอยู่ห่างจากเรือมากกว่าปกติ


  • พฤติกรรมการหลบหลีกเรือ 
            โลมา หลังโหนกค่อนข้างอ่อนไหวต่อการถูกรบกวนจากการสัญจรทางเรือบริเวณชายฝั่ง โลมาจะไม่ได้รับผลกระทบจากการว่ายน้ำหรือการเล่นกระดานโต้คลื่น แต่มักจะถูกรบกวนจากเรือที่ ใช้เครื่องยนต์ จากการสังเกตไม่พบว่าโลมาหลังโหนกมีพฤติกรรมการเล่นคลื่นหรือการว่ายโต้คลื่นที่หัวเรือ
            เมื่อเปรียบเทียบกับโลมาปากขวด และ ไม่ค่อยเข้ามาใกล้เรือสำรวจ โดยเฉพาะในขณะที่เรือกำลังแล่น  หากถูกรบกวนจากเรือ โลมาจะแสดงพฤติกรรมว่ายหนีโดยมักจะดำน้ำลงไปแล้วไปโผล่ในจุดอื่นหรืออาจว่าย เปลี่ยนทิศทางไปจากเดิม บางครั้งพบว่าโลมามีการว่ายลอดใต้ท้องเรือเพื่อเปลี่ยนทิศทางไป
ตรงกันข้ามกับที่เรือแล่นด้วย


เสียงของโลมา

 ปกติ สัตว์บกมักจะมีประสาทรับเสียงและกลิ่นที่ฉับไวมากในสัตว์ทะเลนั้นมีปัจจัย เรื่องของน้ำและการดูดซับของเสียงจากน้ำ แต่เสียงสามารถเดินทางได้ดีในน้ำดังนั้นสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมจึงใช้ เสียงร้องและการได้ยินเป็นเครื่องมือสื่อสารขั้นพื้นฐานระหว่างกัน มันใช้เสียงในการสื่อสาร การหาอาหาร และการอพยพย้ายถิ่น นอกจากนี้ในฤดูผสมพันธุ์เสียงร้องยังมีส่วนสำคัญมากในการหาคู่ของมันอีกด้วย 



ประโยชน์ของสัญญาณเสียง

ใช้แทนการมองเห็นสภาพแวดล้อมใต้น้ำในสภาวะที่มีความขุ่นของน้ำและแสงสว่างไม่เพียงพอ


ช่วยในการบอกทิศทาง ตำแหน่งของอาหาร

ติดต่อสื่อสารระหว่างกันในกลุ่ม รวมถึงการกระตุ้นลูกโลมาแรกเกิดให้จำเสียงแม่ได้

การเตือนภัยด้วยสัญญาณเสียง


สารคดีเกี่ยวกับโลมา


ใบงานที่3 พรบ.คอมพิวเตอร์


พระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์



https://sites.google.com/a/scphkk.ac.th/home/act_computer2560

 พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 ที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติให้ความเห็นชอบเมื่อเดือนธันวาคม เมื่อปีที่ผ่านมา (2559) และได้ประกาศลงราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 24 มกราคม ล่าสุด มีผลบังคับใช้แล้วในวันที่ 24 พ.ค.นี้ 
 พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2560 ก่อนหน้านี้ ร่างพระราชบัญญัติ ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ฉบับใหม่ ผ่านการเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา ล่าสุดประกาศลงราชกิจจานุเบกษาแล้ว โดยมีชื่อว่า “พระราชบัญญัติ ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560” ( พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ปี2560)โดยรายละเอียด พระราชบัญญัติ ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 ( พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ปี2560) สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา (คลิกที่นี่)ทั้งนี้ในมาตรา 2 ของพระราชบัญญัตินี้ ระบุว่า ให้บังคับใช้เมื่อพ้นกําหนด 120 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา นั่นหมายความว่าจะบังคับใช้ภายใน 31 พฤษภาคม 2560 พ.ร.บ ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ปี 2560 คือร่างแก้ใขของ พ.ร.บ ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ปี 2550 ที่ถูกปรับปรุงให้ทันสมัย เหมาะสมกับเวลาและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป ดังนั้นโครงสร้างของกฎหมายสองฉบับจึงเหมือนกันเป็นส่วนใหญ่ และแน่นอนกฏหมายทั้งสองฉบับก็ต้องมีส่วนที่แตกต่างกันอยู่หลายประเด็น และหลายๆ ประเด็นก็ถูกตั้งคำถามมากมายว่าเป็นธรรมหรือไม่ เหมาะสมหรือไม่?

♔ ♕ ♖ ♗ ♘ ♙ ♚ ♛ ♜ ♝ ♞ ♟

พ.ร.บ คอมพิวเตอร์ปี 2560 ถูกเริ่มร่างเมื่อปี 2558 และยังคงแก้ใขต่อเนื่องมาถึงปี 2559 ดังนั้น พ.ร.บ คอมพิวเตอร์ปี 2558 ก็คือฉบับเดียวกันกับพ.ร.บ คอมพิวเตอร์ปี 2560 นั่นเองข้อแตกต่างระหว่าง พ.ร.บ คอมพิวเตอร์ปี 2550 กับ พ.ร.บ คอมพิวเตอร์ปี 2560(ขอบคุณภาพจาก ilaw)เนื้อหาสำคัญของ พ.ร.บ คอมพิวเตอร์ปี 2560 ที่นำเสนอมีดังนี้การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันที่ 28 เม.ย. จะมีการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ …) พ.ศ… วาระที่ 1 ขั้นรับหลักการ ซึ่งเป็นร่าง พ.ร.บ.ที่ปรับปรุงเนื้อหาบางส่วนที่อยู่เดิมในพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550ทั้งนี้ ในร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ระบุถึงเหตุผลที่ต้องมีการแก้ไข พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับปัจจุบันว่า “พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มีบทบัญญัติบางประการที่ไม่เหมาะสมต่อการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน…….ซึ่งมีรูปแบบการกระทำความผิดที่มีความซับซ้อนมากขึ้นตามพัฒนาการทางเทคโนโลยี ซึ่งเปลี่ยนแปลงอย่า



24 พ.ค.60 - พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 ที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติให้ความเห็นชอบเมื่อเดือนธันวาคม ปีที่แล้ว และประกาศลงราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 24 มกราคม ที่ผ่านมา มีผลบังคับใช้แล้วในวันนี้ (พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกําหนด 120 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา)
ก่อนที่กฎหมายฉบับนี้จะคลอดออกมา ได้ถูกกระแสคัดค้านอย่างหนัก โดยผู้ไม่เห็นด้วยเห็นว่าร่างกฎหมายนี้ไม่มีความชัดเจน กระทบสิทธิประชาชน ปิดกั้นการตรวจสอบ เปิดช่องไม่ต้องใช้คำสั่งศาลในการปิดเว็บไซต์ รวมทั้งอาจมีการสร้างซิงเกิ้ลเกตเวย์ฯ และทางเครือข่ายพลเมืองเน็ตได้ยื่นรายชื่อประชาชน 3 แสนรายชื่อขอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คว่ำร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว แต่ถึงที่สุดสภานิติบัญญัติแห่งชาติก็ให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายนี้ด้วยเสียงเอกฉันท์ (อ่าน...ร่างพ.ร.บ.คอมพ์ ผ่านฉลุย! สนช.เมินเสียงค้าน)

✿.。.:* *.:。✿ ✿.。.:* *.:。✿

สำหรับเนื้อหาสำคัญของกฎหมายฉบับนี้ เช่น กำหนดความผิดฐานส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่น อันมีลักษณะเป็นการก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้รับ หรือ "ส่งสแปม" ให้มีโทษปรับ 200,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 100,000 บาท) การให้มีคณะกรรมการกลั่นกรอง 9 คน ขึ้นมาพิจารณาและเสนอแนะต่อรัฐมนตรีว่า ข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดที่ควรจะขออนุญาตต่อศาลให้ปิดกั้นการเข้าถึง หรือ ให้ศาลสั่งบล็อคเว็บไซต์เตือนความจำกันสักหน่อย เพื่อการใช้ออนไลน์อย่างถูกกฎหมาย สำหรับสาระสำคัญที่หลายคนควรพึงระวังใน พ.ร.บ.ว่าด้วยกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 หรือ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฉบับ 2มีสาระสำคัญจำง่ายๆ ดังนี้



1. การฝากร้านใน Facebook, IG ถือเป็นสแปม ปรับ 200,000 บาท
2. ส่ง SMS โฆษณา โดยไม่รับความยินยอม ให้ผู้รับสามารถปฏิเสธข้อมูลนั้นได้ ไม่เช่นนั้นถือเป็นสแปม ปรับ 200,000 บาท
3. ส่ง Email ขายของ ถือเป็นสแปม ปรับ 200,000 บาท
4. กด Like ได้ไม่ผิด พ.ร.บ.คอมพ์ฯ ยกเว้นการกดไลค์ เป็นเรื่องเกี่ยวกับสถาบัน เสี่ยงเข้าข่ายความผิดมาตรา 112 หรือมีความผิดร่วม
5. กด Share ถือเป็นการเผยแพร่ หากข้อมูลที่แชร์มีผลกระทบต่อผู้อื่น อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพ์ฯ โดยเฉพาะที่กระทบต่อบุคคลที่ 3
6. พบข้อมูลผิดกฎหมายอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ของเรา แต่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าของคอมพิวเตอร์กระทำเอง สามารถแจ้งไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบได้ หากแจ้งแล้วลบข้อมูลออกเจ้าของก็จะไม่มีความผิดตามกฎหมาย เช่น ความเห็นในเว็บไซต์ต่าง ๆ รวมไปถึงเฟซบุ๊ก ที่ให้แสดงความคิดเห็น หากพบว่าการแสดงความเห็นผิดกฎหมาย เมื่อแจ้งไปที่หน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อลบได้ทันที เจ้าของระบบเว็บไซต์จะไม่มีความผิด
7.สำหรับ แอดมินเพจ ที่เปิดให้มีการแสดงความเห็น เมื่อพบข้อความที่ผิด พ.ร.บ.คอมพ์ฯ เมื่อลบออกจากพื้นที่ที่ตนดูแลแล้ว จะถือเป็นผู้พ้นผิด
8. ไม่โพสต์สิ่งลามกอนาจาร ที่ทำให้เกิดการเผยแพร่สู่ประชาชนได้
9. การโพสเกี่ยวกับเด็ก เยาวชน ต้องปิดบังใบหน้า ยกเว้นเมื่อเป็นการเชิดชู ชื่นชม อย่างให้เกียรติ
10. การให้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้เสียชีวิต ต้องไม่ทำให้เกิดความเสื่อมเสียเชื่อเสียง หรือถูกดูหมิ่น เกลียดชัง ญาติสามารถฟ้องร้องได้ตามกฎหมาย
11. การโพสต์ด่าว่าผู้อื่น มีกฏหมายอาญาอยู่แล้ว ไม่มีข้อมูลจริง หรือถูกตัดต่อ ผู้ถูกกล่าวหา เอาผิดผู้โพสต์ได้ และมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท
12. ไม่ทำการละเมิดลิขสิทธิ์ผู้ใด ไม่ว่าข้อความ เพลง รูปภาพ หรือวิดีโอ
13. ส่งรูปภาพแชร์ของผู้อื่น เช่น สวัสดี อวยพร ไม่ผิด ถ้าไม่เอาภาพไปใช้ในเชิงพาณิชย์ หารายได้

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ที่มีผลบังคับใช้แล้ว ซึ่งยังมีอีกหลายประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ ดังนั้นจึงควรรู้กฎกติกาการใช้งานไว้ก่อน ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้เราเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมาย

㋡㋡


โปรดเกล้าฯ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับใหม่ลงในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เริ่มใช้บังคับ พ.ค.2560 นี้ คณะกรรมการกลั่นกรองข้อมูลคอมพิวเตอร์เพื่อขอให้ศาลสั่ง "บล็อก-ปิด" เว็บไซต์ยังอยู่ แม้เคยถูกลงชื่อค้านถึง 300,000 รายชื่อ
วานนี้ (24 ม.ค. 2560) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 หรือ "พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์" ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเห็นชอบไปเมื่อปลายปี 2559 และได้รับการโปรดเกล้าฯ จากพระมหากษัตริย์แล้ว อย่างไรก็ตาม กว่าที่กฎหมายนี้จะมีผลใช้บังคับก็อีก 120 วันถัดไป หรือช่วงปลาย พ.ค.2560

☛สาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม มีอาทิ

- เพิ่มเติมความผิดของการส่งสแปมเมล์ โดยกำหนดโทษปรับ 200,000 บาท (มาตรา 11)
- แก้ไขให้ไม่สามารถนำไปฟ้องฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญาได้ (มาตรา 14(1))
- แก้ไขให้ยกเว้นความผิดสำหรับผู้ให้บริการได้หากยอมลบข้อมูลที่ผิดกฎหมาย (มาตรา 15)
- เพิ่มเติมให้ผู้ใดที่มีข้อมูลซึ่งศาลสั่งให้ทำลายอยู่ในครอบครองจะต้องทำลายไม่เช่นนั้นจะได้รับโทษด้วย (มาตรา 16/2)
- เพิ่มเติมให้มีคณะกรรมการกลั่นกรองข้อมูลคอมพิวเตอร์ ขึ้นมาพิจารณาว่าข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดที่จะขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน สามารถส่งฟ้องศาลเพื่อระงับหรือลบข้อมูลดังกล่าวได้ (มาตรา 20) ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม เนื้อหาหลายมาตราใน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์นี้ จะต้องให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ออกกฎกระทรวงหรือประกาศ เพื่อกำหนดรายละเอียดการใช้บังคับต่อไป
นายไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ของ สนช. เคยกล่าวว่า กฎหมายนี้ได้มีการปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น เช่น มาตรา 14(1) ที่เดิมใช้ฟ้องหมิ่นประมาท ก็แก้ให้ชัดเจนว่าหมายถึงการปลอมตัวออนไลน์เพื่อไปหลอกเงิน หรือ phishing เท่านั้น ซึ่งจะทำให้ต่อไปคดีหมิ่นประมาทที่ฟ้องตามมาตรานี้ถูกศาลยกฟ้องทั้งหมด โดยคดีน่าจะหายไปราว 50,000 คดี หรือมาตรา 15 ที่ให้ผู้ให้บริการไม่มีความผิดทันทีหากยอมลบข้อมูลที่ผิดกฎหมาย ส่วนมาตรา 20 ในคณะกรรมการกลั่นกรองข้อมูลคอมพิวเตอร์ 9 คน ก็ให้มีตัวแทนจากภาคเอกชนถึง 3 คน และการกลั่นกรองก่อนจะถึงศาล ก็มีถึง 3 ขั้นตอน ประกอบด้วยคณะอนุกรรมการ คณะกรรมการ และ รมว.ดีอี
ด้านนายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันอิศรา กล่าวว่า บทบัญญัติของกฎหมายไม่ได้น่ากลัว สิ่งที่น่ากลัวคือการใช้อำนาจโดยมิชอบของภาครัฐ ที่ผ่านมาสำนักข่าวอิศราเคยถูกผู้ให้บริการแจ้งขอให้ปิด URL ของข่าวที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลนี้ 2 ข่าว โดยอ้างว่าเป็นคำสั่งของผู้มีอำนาจ แต่ไม่ระบุตัวผู้ออกคำสั่ง ถือเป็นการใช้อำนาจตามมาตรา 20 ระงับข้อมูลที่ถูกพิจารณาว่าผิดกฎหมาย แต่กลับใช้อำนาจผ่านผู้ให้บริการแทนที่จะไปศาล
สำหรับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์นี้ เคยถูกคัดค้านอย่างหนัก ก่อนการพิจารณาในวาระที่ 2 และ 3 ในที่ประชุมของ สนช. ช่วงปลายปี 2559 โดยมีผู้ร่วมลงชื่อกว่า 300,000 คนในเว็บไซต์ change.org เรียกร้องให้ สนช.ชะลอการพิจารณาไปก่อน ซึ่งหนึ่งในประเด็นสำคัญที่หลายฝ่ายเป็นห่วงคือมาตรา 20/1 ที่ให้คณะกรรมการกลั่นกรองข้อมูลคอมพิวเตอร์เสนอศาลบล็อกหรือปิดเว็บไซต์ใดก็ได้ ถ้าเห็นว่าขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดี แม้ไม่ผิดกฎหมายอื่นใด ซึ่งนับแต่เป็นร่าง พ.ร.บ. จนที่ประกาศลงในเว็บไซต์ราชกิจจาฯ เนื้อหาในส่วนนี้ก็ยังอยู่ แม้จะมีการย้ายจากมาตรา 20/1 มาเป็นมาตรา 20 และเพิ่มจำนวนคณะกรรมการกลั่นกรองข้อมูลคอมพิวเตอร์ จาก 5 คน เป็น 9 คน ก็ตาม

ดูสรุป พ.ร.บ. กัน

เนื่องจาก พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฉบับปรับปรุงแก้ไข พ.ศ. 2560 มีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา ตอนนี้ทางเราได้เอกสารฉบับย่อที่อ่านแล้วเข้าใจง่ายจึงนำมาให้อ่านกันนะ



นอกจากนี้การฝากร้านตาม Social Media ของคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตถือว่าเป็นการ SPAM มีความผิดด้วยครับ โดยปรับข้อความละไม่เกิน 2 แสนบาท *(มีอ้างอิงท้ายบทความ) ทั้งนี้แอดมินเว็บไซต์ แอดมินเว็บบอร์ด แอดมินเพจ แอดมิน Social Media ต่างๆ หากพบผู้ชมมาคอมเมนท์ที่เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ (รวมถึงมีการได้รับแจ้ง) เมื่อลบแล้วจะพ้นความผิด

ไม่มี Single Gateway แล้วแก้ไขอะไรบ้าง?


สาระสำคัญพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560



นอกจากนี้ท่านสามารถอ่านพ.ร.บ. ดังกล่าวฉบับเต็มได้

   
พรบ. คอมพิวเตอร์ 2560



ดังนั้นทางเราขอเตือน

อย่าแชร์ อัพโหลด โพสต์ แชทหรือ Like ข้อมูลที่อาจเป็นความเท็จหรือใส่ร้ายผู้อื่น สร้างความเสียหาย รวมถึงหมิ่นประมาท ควรคิดก่อนทำกันนะครับ และอย่าทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ของคนอื่นเสียหายนะ

วีดีโอเกี่ยวกับพบร.คอมพิวเตอร์ 60



*.:。*゚‘゚・.。.:* *.:。*゚’゚・.。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:*

fantastic dolphins มหัศจรรย์โลมา

Fantastic dolphins from Tanchanok Kanthasorn